ตามข้อมูลจาก World Steel Association (worldsteel) การผลิตเหล็กดิบทั่วโลกในเดือนตุลาคมปีนี้ลดลง 10.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหลือ 145.7 ล้านตันตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคมปีนี้ ผลผลิตเหล็กดิบทั่วโลกอยู่ที่ 1.6 พันล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในเดือนตุลาคม การผลิตเหล็กดิบในเอเชียอยู่ที่ 100.7 ล้านตัน ลดลง 16.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในหมู่พวกเขา จีน 71.6 ล้านตัน ลดลง 23.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีญี่ปุ่น 8.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีอินเดีย 9.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีเกาหลีใต้ผลิตได้ 5.8 ล้านตัน ลดลง 1% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ประเทศในสหภาพยุโรป 27 ประเทศผลิตเหล็กดิบได้ 13.4 ล้านตันในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยการผลิตของเยอรมนีอยู่ที่ 3.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ตุรกีผลิตเหล็กดิบได้ 3.5 ล้านตันในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้วการผลิตเหล็กดิบใน CIS อยู่ที่ 8.3 ล้านตัน ลดลง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี และผลผลิตโดยประมาณของรัสเซียอยู่ที่ 6.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในอเมริกาเหนือ ผลผลิตเหล็กดิบรวมในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 10.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 16.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี และผลผลิตของสหรัฐฯ อยู่ที่ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 20.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีผลผลิตเหล็กดิบในอเมริกาใต้อยู่ที่ 4 ล้านตันในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี และผลผลิตของบราซิลอยู่ที่ 3.2 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในเดือนตุลาคม แอฟริกาผลิตเหล็กดิบได้ 1.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 24.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีผลผลิตรวมของเหล็กดิบในตะวันออกกลางอยู่ที่ 3.2 ล้านตัน ลดลง 12.7% และผลผลิตโดยประมาณของอิหร่านอยู่ที่ 2.2 ล้านตัน ลดลง 15.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
เวลาโพสต์: Nov-24-2021